งานทันตกรรมทั่วไป
การตรวจวินิจฉัยโรค

ขูดหินปูน
การขูดหินปูนคือ การกำจัดคราบหินปูน ทำได้โดยการขูดก้อนหินปูนทั้งชนิดบนเหงือกและใต้เหงือกออกจนหมดการขูดหินปูนใช้เครื่องมือ 2 ชนิด ชนิดแรกเป็นเครื่องขูดหินปูนไฟฟ้าใช้การสั่นของเครื่องมืออัลตร้าโซนิค ในการกระเทาะเอาหินปูนออกให้หลุดจากผิวฟัน การใช้เครื่องมือไฟฟ้าช่วยให้การขูดหินปูนทำได้เร็วและยังทำให้สะดวก ชนิดที่ 2 เป็นการใช้แรงมือขูด
สาเหตุการเกิดหินปูน
หินปูนเกิดขึ้นจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งซ่อนตัวอยู่ตามซอกฟัน เกิดจากเศษอาหารที่ติดฟัน คราบน้ำตาล จึงทำให้เชื้อเหล่านี้เจริญเติบโตพร้อมผลิตกรดบางอย่างขึ้นมา ซึ่งสามารถทำลายแร่ธาตุที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวเคลือบฟันได้ จากนั้นแบคทีเรียดังกล่าวก็จะสร้างหินปูนขึ้นมาคุมตัวเองอีกชั้นหนึ่งโดยไม่ หลุด ออก ได้เอง หากปล่อยไว้นานจะ ก่อให้เกิดหินปูนที่มีชั้นที่หนาและ ค่อยๆ ทำลายชั้นเคลือบ ฟัน
วัย ที่ควรเริ่มขูดหินปูน
หินปูนสามารถขูดได้ทุกเพศทุกวัยแม้กระทั่งในเด็กที่มีฟันน้ำนมขึ้นแล้วจนกระทั่งผู้สูงอายุในระยะแรกๆหลังการขูดหินปูนควรกลับมาให้ทันตแพทย์ตรวจและทำความสะอาดอย่าง และควรมาพบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือนถึง 1 ปี ต่อครั้ง
ขั้นตอนการขูดหินปูน
การขูดหินปูน เป็นวิธีรักษาทางทันตกรรมที่ สามารถทำได้ที่โรงพยาบาลหรือคลินิก เมื่อทำทันตกรรมเสร็จสามารถกลับบ้าน ได้ทันที
การป้องกันคราบหินปูน
เราสามารถป้องกันหินปูนได้โดย กำจัดคราบจุลินทรีย์ในช่องปากโดยการ
- แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งตอนเช้าและก่อนนอน การแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อเป็นสิ่งที่ดีมากแต่ถ้าหากว่าไม่สามารถทำหน้าให้บ้วนน้ำตามทุกครั้งหลังทานอาหาร
- หลีกเลี่ยงอาหารหวานๆ โดยเฉพาะระหว่างมื้อ
- ใช้ไหมขัดฟัน
- แปรงลิ้นทุกครั้งหลังแปรงฟันและใช้ ไหม ขัดฟันร่วมด้วย
- พบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อตรวจสุขภาพฟันและทำความสะอาดฟัน และรับการรักษาระยะเริ่มแรกก่อนที่ท่านจะสูญเสียฟันของท่านเนื่องจากโรคฟันผุและปริทันต์
ประโยชน์ของการขูดหินปูน
- การขูดหินปูนถือเป็นหนึ่งในที่ป้องกันโรคเหงือก หลังจากการขูดหินปูนแล้ว คนไข้ ที่ได้รับการขูดหินปูน ควรรักษาความสะอาดช่องปาก และทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์
- การขูดหินปูนเพื่อรักษานั้นหากมีค่าแบคทีเรียเริ่มก่อตัวจนกลายเป็นคราบแข็งก็ควรทำการขูดหินปูนเพื่อป้องกันหากปล่อยไว้ก็จะทำให้กลายเป็นโรคเหงือกและเป็นสาเหตุที่ทำให้เราสูญเสียฟัน
- เมื่อคนไข้ เช็คสุขภาพฟันและช่วงปากหรือพบทันตแพทย์ประจำทุกๆ 6 เดือนหรือ 1 ปี ช่วยลดโอกาสเป็นโรคเหงือกอักเสบหรือปริทันต์ได้ถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
- ช่วยลดปัญหากลิ่นปากเหงือกบวมเหงือกอักเสบ

การอุดฟัน
การอุดฟัน
วัสดุอุดอมัลกัม (Amalgam Filling) silver filling สีโลหะ จึงนิยมอุดเฉพาะในฟันหลัง ทันตแพทย์ต้องกรอฟันเป็นช่องลักษณะคล้ายกล่องเพื่อให้วัสดุยึดติดได้ หลังจากอุดฟให้งดเคี้ยวอาหารข้างที่อุด 24 ชั่วโมงเพื่อรอให้วัสดุอมัลกัมแข็งตัวเต็มที่
ข้อดี
- ราคาถูก
- ขั้นตอนการอุดฟันซับซ้อนน้อยกว่าการอุดด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน ทำได้รวดเร็วกว่า
- ใช้ในที่ที่ไม่สามารถควบคุมความชื้น (moist control) เช่น เลือด น้ำลาย ได้
ข้อเสีย
- หลังอุดต้องรอ 24 ชั่วโมงจึงจะใช้ฟันซี่นั้นบดเคี้ยวอาหารเพราะต้องรอให้วัสดุแข็งแบบสนิทก่อน
- ต้องมีการกรอเนื้อฟันจริงๆออกมากเกินรอยผุจริงเพราะวัสดุสีเงินต้องการความหนาของวัสดุให้เพียงพอต่อความแข็งแรง
- ไม่ค่อยสวยงาม เนื่องจากมีสีไม่เหมือนฟันตามธรรมชาติ
- การเปลี่ยนสีของฟัน วัสดุอมัลกัมอาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนสีของเนื้อฟันรอบๆวัสดุอุดเป็นสีเทาเงิน
- สามารถทำให้เกิดฟันแตกหรือฟันร้าวได้ง่าย
วัสดุสีเหมือนฟัน (Composite Resin Filling) Tooth-colored วัสดุอุดฟันจำพวกเรซิ่นหรือคอมโพสิตเรซิ่นจะมีสีเหมือนฟันธรรมชาติ และใช้บูรณะได้ทั้งฟันหน้าและฟันหลัง จึงเป็นที่นิยมมากสำหรับคนไข้ที่ต้องการความสวยงาม วัสดุชนิดนี้จะแข็งตัวได้ด้วยการฉายแสงจากเครื่องฉายแสงทางทันตกรรม โดยต้องอาศัยสารยึดติด (Bonding) ช่วยให้ยึดติดกับฟัน
การอุดฟันด้วยคอมโพสิต เรซิน ถือเป็นทันตกรรมเพื่อความสวยงามอย่างหนึ่ง เพราะสามารถทำในกรณีที่ไม่ได้มีการสูญเสียเนื้อฟันจากฟันผุ แต่ต้องการอุดฟันเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ เช่น ฟันหน้าที่มีช่องห่างหรือที่มีการเปลี่ยนแปลงสีของฟัน ฟันที่มีรูปร่างเล็กกว่าปกติ
ข้อดี
- ไม่มีสารปรอท
- ดูแล้วเหมือนสีฟันธรรมชาติ สวยงาม มีสีให้เลือกหลายเฉดสีตาม สีของฟัน
- วัสดุแข็งตัวทันทีโดยไม่ต้องรอ 24 ชั่วโมงก่อนใช้งาน
- ทันตแพทย์ไม่ต้องกรอฟันออกมาก สามารถรักษาเนื้อฟันได้มากกว่าการใช้อมัลกัม เนื่องจากการอุดด้วยวัสดุสีเหมือนฟันสามารถทำได้ด้วยการกรอเนื้อฟันที่เสียออกเท่านั้น ขณะที่การอุดด้วยอมัลกัมต้องทำการกรอเนื้อฟันมากกว่าที่ผุเพื่อรองรับวัสดุอมัลกัม
- สามารถใช้ในการตกแต่งและซ่อมแซมฟันที่บิ่น แตกหรือหักให้กลับมามีรูปร่างดีและมีความสวยงามดังเดิม
- ปัจจุบันมีการพัฒนาวัสดุที่มีความแข็งแรงมากขึ้นเทียบเท่าหรือแข็งแรงกว่าอมัลกัม ทำให้สามารถมีอายุการใช้งานที่นานมากกว่า 10 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานและดูแลรักษาของคนไข้
ข้อเสีย
- ราคาสูงกว่า
- ใช้เวลาในการอุดนานกว่า วิธีการที่ซับซ้อนกว่า (technique sensitive)
- ต้องควบคุมความชื้นขณะที่ทำการรักษาเป็นอย่างดี
- สามารถติดสีจากอาหารและเครื่องดื่มที่บริโภค เช่น ชา กาแฟ หรือจากการสูบบุหรี่
- ไม่เปลี่ยนสีขาวขึ้นเหมือนฟันธรรมชาติหากฟอกสีฟันขาวภายหลัง
- การแตกของวัสดุ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่อุด
- ราคาจะสูงกว่าการอุดด้วยวัสดุอมัลกัม
วัสดุอุดฟันชั่วคราว
วัสดุอุดฟันจะช่วยปิดคลุมฟันเพียงชั่วคราวเพื่อดูอาการหรือรอการรักษาอื่นๆต่อไป วัสดุอุดฟันชั่วคราวไม่ได้มีไว้ใช้งานอย่างถาวร วัสดุเหล่านี้จะหลุด แตก หรือสึกกร่อนภายในหนึ่งหรือสองเดือนเท่านั้น จึงใช้เฉพาะเวลาสั้นๆเพื่อรอดูอาการหรือรอการรักษาอย่างอื่นต่อไป
ข้อดี
- ราคาถูก
- ขั้นตอนการทำไม่ยากและซับซ้อน
- สามารถรื้อออกได้ง่ายเมื่อต้องมาทำการรักษามากกว่าหนึ่งครั้งเช่น การรักษารากฟัน
ข้อเสีย
- การอุดฟันชั่วคราวจะไม่คงทนสามารถหลุดออกมาเมื่อไหร่ก็ได้
- อายุการใช้งานจำกัด ใช้เพียงชั่วคราวเท่านั้น
- ไม่สามารถใช้ฟันด้านที่อุดชั่วคราวไปได้ ภายใน 1-2 ชั่วโมงแรก เพราะวัสดุยังไม่แข็งแรงพอ